วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Pepsi's History




นาย คาเลบ แบรดแฮม ซึ่งเป็นเภสัชกรจากเมือง นิวเบิร์น รัฐ แคโลไรนา ได้เปลี่ยนชื่อ "แบรด ดริงค์" ที่เขาได้คิดค้นปรุงขึ้นเพื่อลูกค้าในร้านขายยาของเขา ไปเป็นชื่อ ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้คือ "เป๊ปซี่ - โคคาโคล่า" ในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1898

เพื่อที่จะดำรงตำรับความเป็นเครื่องดื่มที่ผสมขึ้นโดยเภสัชชกร แบรดแฮมจึงทำการโฆษณาเครื่องดื่มของเขา อย่างค่อนข้างจะเกินจริงหน่อยๆว่า "สดชื่น มีชีวิตชีวา และช่วยในการย่อยอาหาร" ในปี 1903 และได้ตั้งโรงงานบรรจุขวด เป๊ปซี่-โคล่าสาขาแรก ขึ้นที่เมืองชาร์ล็อตและเดอร์แฮม รัฐ นอร์ธ แคร์โลไลนาอีสองปีต่อมาในปี 1905

และใน ค.ศ. 1909 เป๊ปซี่ได้ดึงตัวนักแข่งรถระดับแถวหน้า บาร์นี่ โอล์ฟิลด์ ซึ่งถือเป็นพรีเซนเตอร์ผู้มีชื่อเสียงคนแรกของเป๊ปซี่ มาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาเป๊ปซี่ทางหน้าหนังสือพิมพ์ ว่า"เครื่องดื่มชั้นยอด...เติมความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เป็นเครื่องบำรุงกำลังสำหรับเารแข่งขันประลองความเร็ว"

และได้เริ่มมีการใช้แนวคิดที่ว่า "รสชาติดีเยี่ยมและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ" ซึ่งแนวคิดนี้ยังคงใช้ต่อกันมานานถึง 2 ทศวรรษ

ต่อมา ปี 1941 เพื่อเป็นการสนับสนุนกาองทัพอเมริกา เป๊ปซี่จึงเปลี่ยนสีของฝาขวดเป็นสีแดง ขาว และน้ำเงิน และร้านค้าเป๊ปซี่ในไทม์ แสควร์ นิวยอร์ค ได้เปิดกิจการตลอดช่วงระยะเวาลที่เกิดสงคราม ทำให้ครอบครัวกว่า 1 ล้านครอบครัวสามารถบันทึกข้อความสำหรับฝ่ายบริการของกองทัพที่อยู่โพ้นทะเลได้

พอถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ใปี1946 เกิดวิกฤติน้ำตาลขึ้นอีกครั้ง และเพื่อเป็นการแกวิกฤติครั้งนี้ เป๊ปซี่จึงซื้อกิจการปลูกอ้อยน้ำตาลในคิวบา ซึ่งถือว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของเป็ปซี่คุ้มค่ามาทีเดียว เนื่องสามารถทำกำไรได้มากเพราะน้ำตาลก็ปลูกเอง ไม่ต้องไปซื้อเอาที่ไหน จึงเข้าภาษิตที่ว่า เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน

บัดนี้ ปี1947 เป๊ปซี่มีผลกำรนานาชาติสูงถึง 6,769,000 เหรียญสหรัฐ จากนั้น เป๊ปซี่ก็เริ่มรุกตลาดเข้าไปใน ฟิลิปปินส์ และตะวันออกกลาง หลังจากได้ตีตลาด แถบละติน อเมริกาแล้ว

ปี 1950เป๊ปซี่ได้ใช้สโลแกนที่ว่า"สองเท่าในราคา 5 เซ็นต์ก็เหมือนกับได้มากกว่า 1 ออนซ์ ส่งมให้เป๊ปซี่มีทศวรรษที่เต็มไปด้วยพละกำลัง เมื่อผู้บริโภคต่างก็คิดว่า เหมาโหลถูกกว่าอยู่แล้ว

แต่ว่ากลยุทธ์นี้ก็ต้องชะงักเมื่อชาวอเมริกันเริ่มหันมาตระหนักถึงเรื่องน้ำหนักตัว เป๊ปซี่จึงตอบสนองโจทย์ผู้บริโกคเกี่ยวกับเรื่องแคลอรี่ต่ำด้วยแคมเปญ "ความสดชื่นแบบแบาๆ"ในปี 1953

เป๊ปซี่ได้รับการขนานนามว่า the kitchen cola เนื่องมาจากที่เป๊ปซี่ครองตำแหน่ง ยี่ห้อที่ราคาไม่แพงเป็นเวาลานาน ในขณะเดียวกันเป๊ปซี่ก็ได้เจาะกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มสาวที่ทันสมัยด้วยแนวคิด "อยากเข้าได้กับกลุ่มดื่มเป๊ปซี่ซิ" และใช้ขวดเกลียว เข้ามาแทนที่ขวดแบนเรียบแบบเก่าในปี 1958

ในปี 1963 ซึ่งเป็นหนึ่งในช่วงการศึกษาสถิติประชากรมนุษย์ที่สำคัญที่สุด ยุคเบบี้ บูมเมอร์ในช่วงหลังสงครามเป็นปรากฎการณ์ทางด้านสังคมและด้านการตลาดอันหนึ่ง เป๊ปซี่มองเห็นถึงช่องทางของความเปลี่ยนแปลงนั้น จึงกำหนดตำแหน่งของตัวเองว่าเป็น เครื่องดื่มสำหรับคนรุ่นใหม่ - เป๊ปซี่ เจเนอเรชั่น โฆษณา "Come alive! You're in the pepsi Generation" ได้สร้างประวัติศาสตร์แก่วงการโฆษณา เป็นครั้งแรกที่ ด้วยการกำหนดตัวผลิตภัณฑ์ไม่ได้อยู่ที่คุณลักษณะของผลิตภัณฑ์นั้นๆ แต่อยู่ที่ลักษณะวิถีชีวิตของผู้บริโภคแทนปีถัดไปเป๊ปซี่ก็ได้ถือฤกษ์คลอด Diet PEpsi ขึ้นมา

เริ่มมีการรุกตลาดอื่นนอกเหนือไปจากตลาดเครื่องดื่ม ฟริโต-เลย์ ของ ดัลลัส, เท็กซัส และ เป๊ปซี่-โคล่า มารวมกัน กลายเป็น บริษัท เป๊ปซี่ (Pepsi Co, Inc.)
ประสบความสำเร็จกับการออกกระป๋องขนาด 12 ออนซ์ การกระจายสินค้าอย่าเต็มรูปแบบเริ่มขึ้น เมาเท่น ดิว เริ่มออกสู่ตลาดด้วยแคมเปญ "Ya-Hoo Mountain Dew… It's tickle your innards"
"Girlwatchers" แคมเปญอิสระชิ้นแรกของไดเอทเป๊ปซี่ มุ่งเน้นแนวคิดไปที่ประโยชน์ทางด้านความสวยงามที่ได้จากการดื่มโคล่าแคลอรี่ต่ำ เพลงโฆษณา "Girlwatchers" ได้รับความนิยมติดอันดับหนึ่งใน 40 จากนั้นโฆษณาของ เมาเท่น ดิว ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกชนิดหนึ่งที่ออกมาในปี 1964 ก็ตามมา โดยออกอากาศเป็นครั้งแรก กับสโลแกนที่ติดหูในทันทีที่ว่า "Ya-hoo, Mountain Dew"

ใน ค.ศ. 1999 ถือว่าเป็นปีที่เป๊ปซี่มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน เริ่มต้นที่ เป๊ปซี่และลูคัสฟิล์มร่วมมือกันในภาพยนตร์สุดฮิตเรื่อง "Star Wars: Episode I – The Phantom Menace" สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคที่รอชมมานาน ด้วยกระป๋องเป๊ปซี่และขวดที่มีรูปของตัวละครในเรื่องสตาร์วอร์สทั้งหมด 24 แบบ และยังมีกระป๋องทอง "โยดา" อีกด้วย

และต่อมาก็มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้เป๊ปซี่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบใหม่ ที่แสดงความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยใช้ Pepsi Globe บนพื้นสีน้ำเงิน
เป๊ปซี่เฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปี โดยมีบริษัทผู้ผลิตขวดเป๊ปซี่-โคล่าทั่วโลกมาร่วมงาน รวมทั้งดาราดังของเป๊ปซี่ เช่น เรย์ ชาร์ลส์ (Ray Charles), Kool and the Gang และ เดอะ โรลลิ่ง สโตน
รวมทั้ง ประธานาธิบดีบุชและนางบุช นางแธ็ตเชอร์ และวอลเตอร์ ครอนไคท์ (Walter Cronkite) ยังได้ช่วยกล่าวรำลึกถึงโอกาสที่ Pepsi's legacy ได้รับการยกย่องให้เกียรติ และมีการเผยภาพลักษณ์ใหม่สำหรับสหัสวรรษใหม่ โลโก้ที่เป็นสามมิติบนพื้นสีน้ำเงิน ได้กลายมากเป็นสัญลักษณ์สากลเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของครอบครัวเป๊ปซี่ ซึ่งได้รับการปรับให้พร้อมสำหรับนวัตกรรม และความเป็นผู้นำของโลก ในขณะที่ก้าวเข้าสู่ศตวรรษใหม่นี้

คริศตศักราช 2001 ซูเปอร์สตาร์เพลงป๊อป บริทนีย์ สเปียร์ส ปรากฎตัวในฐานะพรีเซ็นเตอร์ของเป๊ปซี่เป็นครั้งแรกในงานประกาศรางวัล อคาเดมี อวอร์ดส์ สปอตโฆษณาที่โด่งดังชิ้นนั้น ก็ได้เผยแพร่บนโลกอินเทอร์เน็ตด้วยเช่นกัน ซึ่งแฟนๆ กว่า 2 ล้านคน คลิกเข้าไปชมโฆษณาชิ้นนี้ของเธอ ซึ่งมีชื่อชุดว่า "the Joy of Pepsi"

เว็บไซต์ PepsiStuff.com เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสะสมแต้ม เพื่อนำมาแลกของรางวัลสุดพิเศษจากเป๊ปซี่กว่าครึ่งล้าน และนั่นก็เป็นโปรโมชั่นออนไลน์ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดชิ้นหนึ่งของเป๊ปซี่
ชากีร่า นักร้องสาวชาวโคลัมเบียผู้กำลังมาแรง เป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของเป๊ปซี่ พร้อมๆ กับตอนที่อัลบั้มเพลงภาษาอังกฤษชุดแรกของเธอฮิตระเบิดในอเมริกา ในขณะเดียวกัน เป๊ปซี่ได้ตกลงเป็นผู้สนับสนุนการทัวร์คอนเสิร์ต เพลงป๊อปสไตล์ละตินของเธอไปทั่วโลก

เป๊ปซี่ เผยโฉมโรงงาน FunWraps ให้ผู้บริโภคสามารถออกแบบกระป๋องเป๊ปซี่ได้เองด้วยดีไซน์สนุกๆ และข้อความส่วนตัว และจากการที่มีกีฬา ความบันเทิง และวันหยุดหลากหลายให้เลือก ผู้ดื่มเป๊ปซี่จึงออกแบบฉลากของเขาเองสำหรับโอกาสใดๆ ก็ได้ตามต้องการ

เป๊ปซี่ใช้สโลแกน "a little twist on a great thing" แนะนำเครื่องดื่มรสมะนาว "Pepsi Twist" และ "Diet Pepsi Twist" นับเป็นการกลับมาของโคล่า รสมะนาวของเป๊ปซี่ ซึ่งจำหน่าย Pepsi Light จนกระทั่งถึงตอนกลางของทศวรรษ 80

เป๊ปซี่่รสชาติต่างๆ



เป๊ปซี่ original


เป๊ปซี่ ไดเอท
เป๊ปซี่วานิลลาเป๊ปซี่ ไม่มี คาเฟอีนเป๊ปซี่ บลู


เป๊ปซี่ ลาเต้

เป๊ปซี่ ทวิสต์

เป็ปซี่ เชอร์รี่

เป็ปซี่ แม็กซ์

เป๊ปซี่ กรีน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น